แถลงผลจับกุมสบู่
ปคบ.ร่วม อย. แถลงผลจับกุมสบู่ ยาลดความอ้วน ยึดของกลางกว่า 5 ล้านบาท เตือน อย่าใช้สินค้าที่มี “ไซบูทรามีน” เนื่องจากเป็นสารอันตราย ต้องห้าม
พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย เภสัชกรประพนต์ อางตระกูล รองเลขาเลขาธิการ อย. ร่วมกันแถลงจับผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนและสบู่ ตราพายาสลิมพลัส พร้อมของกลางมูลค่า 5 ล้านบาท พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวว่ากรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก ปคบ.ได้รับร้องเรียนว่า ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ยี่ห้อพายามีการโฆษณาขายยาลดความอ้วนผ่านทางเฟซบุ๊กและแฟนเพจโดยผิดกฎหมาย
ประกอบกับมีผู้บริโภคสั่งยี่ห้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาตรวจสอบพบว่า มีเลขสารบบอาหารและเลขทะเบียนยาของผลิตภัณฑ์อื่นที่มิใช่ของตนเองมาใช้ จึงจัดเป็นยาและอาหารปลอม เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลัง ขอหมายศาลเข้าจับกุม หมู่บ้านภูมิสิริ แห่งหนึ่งใน จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพายา พบผู้ต้องหานายสุธี อาจดี อายุ 30 ปี เป็นเจ้าของบริษัทและเจ้าของบ้านพักที่ตรวจค้น
เภสัชกรประพนต์ เปิดเผยว่า ผลการตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดต่าง ๆ และบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์พายา ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว ที่มีส่วนผสมของยา ไซบูทรามีน ที่เป็นสารประเภท หลอนประสาท ทำให้ไม่รู้สึกอยากอาหาร หากรับประทานเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ปากแข็ง มือสั่น ใจสั่น และอาจจะส่งผลให้ไตวายเสียชีวิตได้ และตัวยาดังกล่าวนั้น ไม่ได้อยู่ในสารบบของทะเบียนยาในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งที่ผ่านมา ทาง อย. ได้มีการประกาศเตือน และ ขึ้นเว็ปไซต์ว่าเป็นสารอันตราย โดยหลังจากนี้จะนำของกลางทั้งหมดไปตรวจหาสารอันตรายต่อไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 – 100,000 บาท , จำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้องมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท , ขายเครื่องสําอางปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , ขายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม บก.ปคบ. และ อย. ฝากข้อห่วงใยถึงผู้ที่อยากลดน้ำหนัก ในการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักมากินเอง ขอให้ระลึกเสมอว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่โฆษณาชวนเชื่ออวดสรรพคุณในการลดน้ำหนักที่ขายผ่านทาง social media ส่วนใหญ่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน อันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หากมีการบริโภคเกินขนาดหรือมีโรคประจำตัวแทรกซ้อน
ดังนั้น ก่อนใช้ยาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งเตือนผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากหากมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคและถูกตรวจพบ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และฝากประชาชนที่พบเห็นการกระทำความผิดโปรดแจ้งสายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือ สายด่วน อย. 1556
No comments:
Post a Comment